ไปดูกันว่ามีหนังที่คุณรอมั่งหรือเปล่า...
------------------------------------------------------------------------------------------
20. Django Unchained
หนังแปะชื่อ เควนติน ตารันติโน่ กำกับ..
ที่เหลือยังต้ออธิบายอะไรต่อ ? พอแค่นี้ละกัน...
(เอาสักหน่อยน่ะ...)
แต่ก็เพื่อความเข้าใจเลยขออธิบายสักหน่อยละกานนนน
จังโก้ อันเชน หนังคาวบอย(?)
ที่ว่ากันว่าได้อุทิศให้หนังต้นฉบับที่เควนตินได้รับแรงบรรดาลใจอย่าง
"Django" ของผู้กำกับ Sergio Corbucci ในปี 1966 อีกด้วย ขณะเดียวกัน
เควนตินก็ยังไปปิ๊งพลอตคาวบอยมาจากตอนไปเล่นหนังตลกร้าย Sukiyaki western
django (2007) (ชื่อไทย ศึกหม้อไฟ ซามูไรจิ้มจุ่ม <-- กรูจะบร้า 55555)
ของผกก. Takashi Miike
เรื่องย่อขนาดกระทัดรัดของเรื่องนี้คือ
พี่บ่าวจังโก้ จะขอไปช่วยเหลือศรีภรรยาสุดเลิฟจาก ไอ้นายทาสใจโหด
โดยได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเป็นนักล่าค่าหัวตัวเอ้ งานนี้มันละเว้ยยยย
เห้ยยยย!!
พลอตสั้นๆออกจะดู ต๊ะติ๊งโหน่งไปบ้าง ไปดูชื่อตัวละครแล้วกัน แล้วเธอจะบอกว่า "ฉันจะไม่ยอมพลาดเรื่องเน้~"
Leonardo DiCaprio ... Calvin Candie นายทาสจอมโฉด เป็นการพลิกบทไปเป็นไอ้โฉดชั่วครั้งแรกของสุดหล่อคนนี้
Jamie Foxx ... Django จังโก้
พรานผู้เป็นสามีตัวอย่าง จะขอไปนำพาน้องนาง สู่รักรังของเราดังเดิม...
ชะเอิงเงย~ (บทนี้บี้กันมาหลายคนเหลือเกิน เราเกือบได้เห็น วิล สมิธ
ในบทจังโก้แล้ว)
ร่วมด้วย Kerry Washington, Samuel L.
Jackson, Sacha Baron Cohen (ไอ้หนุ่มหนวดหยิมจาก BORAT), Kurt Russell
ล่าสุด Josept Gordon-Levitt พึ่งถอนตัวออกไปจาก ตารางงานที่รัดตัวนั่นเอง
รออยู่ล่ะสิ ... สิ้นปีเลยเธอ .... 25 ธันวาคม 2012
19. American Reunion
เห็นชื่อหนังก็ไม่ต้องเดาว่าเป็นหนังภาคต่อของหนังเรื่องอะไร?
ใช่ค่ะ American Beauty นั่นเอง!!
ถุยย....
หนังภาคต่อที่กะว่าคงเป็นภาคปิดตำนานอย่าง
แท้จริงของ American Pie หนังในรำลึกของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่
ต้นฉบับหนังเรทรักวัยรุ่นที่ดูได้แบบ ฮาๆ
กุ้บกิ้บๆไปตามประสาหนุ่มน้อยอยากรู้อยากเห็น (แต่เชื่อป่ะ ปัจจุบัน
เราไม่เคยดูเรื่องนี้เลย -*-
เพราะโดนกองเซนเซอร์ที่บ้านห้ามดูมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ
ขณะที่พี่ชายได้ดูกันหมด พอโตมาก็รู้สึกไม่อยากดูไปซะงั้น)
เป็นการรวมตัวของหนุ่มๆในอเมริกันพาย
ที่แต่ละคนไปมีชีวิตของตนเองแล้ว คราวนี้เขากลับมาพบกันอีกครั้ง
เป็นการรวมทีมแบบ FULL TEAM ไปดูว่า "ความมัน" จะยังคงอยู่เหมือนหนัง 3
ภาคแรกหรือไม่ หรือใครอยากรำลึกความหลัง ก็เตรียมตัวไปชมได้
เดือนหน้าเลยหนุ่มเอ้ย!!!
18. The Lorax
เข้าฉายไปแล้วในบ้านเราเมื่อเดือนมีนาคมที่
ผ่านมา แม้หนังจะไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นักในบ้านเรา
แต่ในอเมริกากลับเป็นหนังที่ต้อง MUST WATCH
พวกเอ็งต้องดูให้ได้นะว้อยยยยยยย
หนังอเนิชั่นเกี่ยวกับกระแสอนุรักษ์
ที่ทำให้ชาวอเมริกันที่ปากว่าตาขยิบในเรื่องนี้ บางส่วนไปดูแล้วรู้สึกว่า
"ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ววววววว"
รายได้รวมของเรื่องนี้อยู่ 278,813,915 USD
(เฉพาะในอเมริกาก็ 200 กว่าล้านเหรียญแล้ว) ขณะที่ทำรายได้ในไทยไป 10
กว่าล้านบาทเท่านั้นเอง
17. Breaking Dawn Part 2
สิ้นสุดกันที... ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน...
เพลงนี้เจคอบ เขาร้องให้ เบลล่านะ 55555
ในที่สุดหนังก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดกัน
สักที (แม้ฉบับหนังสือจะมีเล่มต่ออีก 1 เล่มเล็กก็ตาม)
หนังแวมไพร์ที่มาสร้างกระแสให้หนังวัยรุ่นรักสามเศร้า ตัวประหลาด ผี
และอมนุษย์ กลับขึ้นมาพาเหรดบนจอเงินอีกครั้ง คราวนี้มาถึงบทสุดท้ายสักที
ติดตามบทสรุประหว่างรักสามเศร้าของ เอ็ด เวิร์ด เบลล่า และ เจคอบ เรื่องราวของทั้งสามจะลงเอยเช่นไร
รอชม ... 16 พฤศจิกายน 2012 นี้ ...
16. Resident Evil: Retribution
หนังที่สร้างจากเกม ที่เข้าตำรา "อย่าเอาหนังไปเทียบกับเกม" มากที่สุด
Resident Evil หรือในชื่อเดิมคือ Bio
Hazard เกมที่ได้รับความนิยมที่สุดบนเครื่อง Play Station
ทันทีที่ทราบข่าวว่า Hollywood จะนำมาทำเป็นหนัง
แฟนเกมทั่วโลกต่างกู่ร้องยินดี ในที่สุดเราก็จะได้เห็นเกมสุดรัก
โลดแล่นบนแผ่นฟิล์มสักที!
หนังภาคแรกในปี 2002 Resident Evil นั้น
ได้รับทั้งกระแสทั้งรักทั้งชังจากคอหนัง
คนที่ไม่เคยเล่นเกมมาต่างก็กรี๊ดกับ อลิซ นักล่าซอมบี้ของ ที่แสดงโดย
มิลล่า โจโววิชกันมาก ส่วนคอเกม(แบบดิฉัน) ก็รู้สึกสนุกอยู่นะ
แต่มันไม่ใช่อ่ะเห้ย!!!!!!
หนังไม่ได้ดำเนินเนื้อเรื่องตามแบบเกมสักกะติ๊ดเดียว
(เนื้อเรื่องตามแบบเกมส์นั้นสุดยอดมากๆขอบอก) แต่หากนำมาเทียบกับภาคต่อๆมา
ภาคแรกกกกลับกลายเป็นภาคที่สุดยอดไปโดปริยาย
เพราะภาคต่อๆมาอย่าง Resident Evil:
Apocalypse, Resident Evil: Extinction, Resident Evil: Afterlife
ภาคล่าสุดที่มั่นใจว่าเป็นภาคจบ หนังยังสับขาหลอกให้ตรูมารอดู ภาคสุดท้าย
(หรือเปล่าวะ-*-) อย่าง Resident Evil: Retribution ที่จะเข้าฉายในปีนี้อีก
เนื้อเรื่องนั้นออกทะเลมาตั้งแต่ ภาค 3 แล้ว
ภาค 2
ยังมีการดำเนินเนื้อเรื่องและตัวละครคลับคล้ายคลับคลากับฉบับเกมอยู่บ้าง
แต่เราก็เลิกมองมันเป็นหนังเกมมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เลยไม่รู้สึกอะไรมาก
แต่พอเข้าภาค 3 เริ่มรู้สึกว่ามันยื้ดเยื้อไปหน่อย หนังยังสามารถลากมาถึง
ภาค 5 จนได้
เอาเป็นว่าใครที่ติดตามซีรี่ย์นี้อยู่ ก็อย่าพลาดแล้วกัน ไปดูมันให้ถึงจุดจบสักที!!
13 กันยายน 2012 ค่ะทุกคน ... ติดตาม My name's Alice, this's my world. กัน
15. Underworld: Awakening
หนังเข้าฉายในบ้านเราไปตั้งแต่ต้นปีแล้ว
ถือว่าสนุกสมการรอคอบสำหรับแฟนหนังเรื่องนี้ หากจำภาคแรกได้ ในปี 2003
นั้นพลอตหนังแบบนี้ถือว่าสนุกสนานและใหม่สุดๆเหลือเกิน (สำหรับเรา) พอจบภาค
3 ก็คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว หนังยังโผล่ภาค 4 แบบแบบ เซอร์ไพรซ์!!!!!~~~~
ให้คอหนังได้ตามเข้าไปดูในโรงแบบ "อ้าวเห้ย มีภาค 4 ด้วยเหรอ"
หนังภาค 4 ทำรายได้ในไทยได้ดีพอสมควรถึงเกือบ 54 ล้านเลยทีเดียว (ขณะที่รายได้ทั่วโลกค่อนข้างจะง่อยพอสมควร)
14. Brave
หลังจากปล่อยให้อนิเมชั่นค่ายอื่นผยองอยู่
นาน คราวนี้ลุง Walt Disneys ขอกลับมาทวงบัลลังก์อนิเมชั่นอีกครั้งกับ
Brave นักรบสาว หัวใจมหากาฬ ...
เรื่องย่อ เมริด้า
ลูกสาวผู้มุทะลุของกษัตริย์ เฟอร์กัส อยากมีเส้นทางชีวิตของตนเอง
ไม่อยากใช้ชีวิตแบบเจ้าหญิงไปวันๆ จึงออกผจญภัย เธอเป็นนักธนูที่เก่งกาจ
แต่ความดื้อรั้นและความไม่เคารพกฏ ประเพณีของเธอกลับนำภัยมาสู่อาณาจักร
เมริด้า ต้องหาทางแก้ไขความวุ่นวายนี้ แม้เธอจะต้องผจญกับคำสาปร้ายก็ตาม
...
ตัวอย่างหนังถือว่าน่าดูพอสมควร
ที่คนคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากเพราะ Walt disneys โหมโปรโมตสุดๆ
หวังว่าจะทำเงินถึงขั้นชิงบัลลังก์หนังอนิเมชั่นหลายๆเรื่องเลยทีเดียว
หลังจากฮุบ Pixar ได้เรียบร้อย อะไรๆก็ดูเหมือนจะง่ายดายยิ่งขึ้น
ทำให้ภาพหนังอนิเมชั่นของ วอลท์ ดิสนีย์ ดูดีขึ้นหลายขุม
หลังจากฝากความหวังไว้กับ Mars Need Mom เมื่อปีที่แล้วมาถึง Brave วอลท์
ดิสนีย์ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังจะต้องไม่แป้กซ้ำรอยเดิม
(ขณะที่หนังที่ดิสนีย์ไม่อยากจะอวดเท่าไหร่แบบ Tangled หรือ Rapunzel กลับเป็นที่ถูกอกถูกใจและบอกต่อกันมากที่สุด)
และถ้าหาก Brave แป้กอีก ก็ไม่เป็นไร เพราะ Monsters University (2013) ของ Pixar คงมาช่วยไว้ได้อย่างแน่นอน ...
พบ Brave ได้ มิถุนายนนี้ ...
13. Snow White and the Huntsman
ปีนี้หนังนิทานมาแรงเหลือเกิน
ต้นปีเรามี สโนไวท์ฉบับโปกฮาไปเป็นที่เรียบร้อย สิ้นปีเรารอพบกับสโนไวท์ฉบับน้องโหด นักรบชิงบัลลังก์...
หนังได้รับความสนใจอย่างมากตั้งแต่เปิดเผยพลอตเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหนังสโนไวท์ที่เราคุ้นเคย
สโนไวท์ฉบับนี้ ต้องต่อสู่ชิงราชบัลลังก์จากนางราชินีชั่วร้าย โดยมีนายพรานหล่อล่ำขย้ำใจ ให้ความสนับสนุน
สโนไวท์เป็นนักรบไม่พอ เจ้าชายยังไม่ใช่พระเอกอีก
แต่ดูตัวอย่างแล้ว น่าดูมากกกก
และหนังก็ยังเป็นหนังที่หลายคนรอคอยอีกด้วย หนังนำแสดงโดย คริสเตน สจ๊วต
ที่หลังจากหมดซีรีย์ทไวไลท์ ก็มาโผล่เป็นสโนไวท์ในเรื่องนี้ทันที
พรานป่าหล่อล่ำรับบทโดย คริส เฺฮมส์เวิร์ด (เทพเจ้า ธอร์สายฟ้า)
และนางราชินีชั่วร้าย รับบทโดย ชารีซ เธอรอน (ที่ทันทีที่หนังออกฉาย
ต้องมีคนนำไปเทียบกับราชินีฉบับโปกฮา จูเลีย โรเบิร์ต แน่นอน)
สิ้นเดือน พฤษภาคม พบกันค่ะ ...
12. Wrath of the Titans
เข้าฉายในบ้านเราไปแล้วเช่นกันสำหรับภาคต่อ
ของ หนังสงครามเทพเจ้า Clash of the Titans ที่มาในภาคนี้
หนังค่อนข้างจะมาแบบเงียบๆไม่เหมือนภาคแรก และทำท่าจะจากไปแบบเงียบๆเช่นกัน
หนังยังมีโปรแกรมฉายอยู่ในบ้านเราเลยไม่ขออธิบายอะไรมากแล้วกันนะคะ :)
(อันที่จริงขี้เกียจอธิบาย เพราะยังไม่ได้ดูเหมือนกัน กร๊ากกกกกกกกก)
11. The Bourne Legacy
เห็นชื่อหนังก็ไม่ต้องทำไรแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดด ก่อนละกัน!
แต่เมื่อเหลือบดูชื่อนักแสดง อ้าว พี่แหม่ด ของน้องไม่ได้มารับบท บอร์นแล้วเหรอคะ!
เศร้าที่สุด ;________;
แม้หนังซีรี่ย์บอร์น จะไม่มีชื่อของ แมต เดม่อนอีกต่อไป แต่นักแสดงที่ได้มารับบทแทนก็ไม่ใช่ขี้ๆนะขอบอก
ดาวรุ่งสำหรับฮอลลีวู้ดทีเดียว
เจเรมี เลนเนอร์
จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับบทตัวประกอบหล่อๆมาหลายเรื่อง กระทั่งมาถึง The
Hurt Locker ชื่อของ Jeremy Lenner ก็เป็นที่จดจำ
จนกระทั่งเขาได้มารับบทนำแทน แมต เดม่อนนั่นแหละ ที่สร้างฟามฮือฮา
หนังไม่ได้ทำเป็นหนังภาคต่อจากภาคที่แล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าใครไม่เคยดู 3 ภาคที่แล้วก็มาดูได้แบบสบายๆ
หนังสร้างจากนิยายสายลับชื่อดังที่เขียนโดย Robert Ludlum โดยมี 3 ภาคแรก ซึ่งก็คือ
The Bourne Identity , The Bourne Supremacy, The Bourne Ultimatum
แต่หลังจาก Robert Ludlum เสียชีวิตไปเมื่อปี 2001
คนที่มาเขียนซีรีย์นี้ต่ออีก 7 เล่มคือ Eric Van Lustbader นั่นเอง โดย The Bourne Legacy เป็นเล่มแรกที่เขาเขียน
ไปรอดูฝีมือบอร์นคนใหม่ (ที่ไม่ได้ชื่อ เจสัน บอร์น) ว่าจะจี๊ดถึงใจแค่ไหน ... สิงหาคม 2012 ค่ะ
10. The Expendables 2
โอ้ว ชิท.
เรื่องนี้เราไปดูในโรงมาแบบว่า ... เห้ย ... พวกพี่ๆไม่คิดจะถามหาเหตุผลในการไปถล่มเมืองกันหน่อยรึคะ?
ช่วยผู้หญิง 1 คนเนี่ยนะ T_____________T
หนังรวมดารารุ่นถึกตายยาก นำทีมโดยปู่
ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ภาค 2 มาแล้ว แม้ภาคแรกจะเจอสวดยับ
แต่คนมีตังค์ทำไงได้ ภาค 2 เลยออกมาแบบชิวๆ ไม่มีอะไรทำ ก็ไปดูหนังบู๊
ระเบิดเถิดเทิงสิฟะ!
ไม่มีอะไรจะอวย เอาเป็นว่าไปรอดู ภาค 2 สิงหาคม ปีนี้
อ้อ... สำหรับสาวๆ ภาคนี้มี เลียม
เฮมเวิร์ธ (น้องชาย คริส เฮล์มเวิร์ธ) ผู้ที่ทำให้สาวกรี๊ดมาแล้วในบท เกล
จาก The Hunger Games นะ...
9. World War Z
หนังสร้างจากวรรณกรรมอีกเรื่องที่เป็นที่จับตามองสุดๆตั้งแต่มีภาพหลุดว่า Brad pitt มารับบทนำ
กรี๊ดดดกร๊าดดดด...
ตัวหนังถือว่าเงียบเชียบสุดๆ
ตอนแรกหนังถูกวางโปรแกรมให้ฉายในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้หนังถูกเลื่อนไปฉาย
เดือนมิถุนายน 2013 เป็นที่เรียบร้อย
ใครอยากจะรู้เรื่องราวของหนังก่อน ก็ไปตามอ่านฉบับวรรณกรรมได้เลย พึ่งมีฉบับแปลไทยวางขายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ว่ากันว่าหนังเรื่องนี้อาจเป็นหนังสงครามซอมบี้ระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เป็นได้ ..
8. The Amazing Spider-Man
จะรีเมค รีบูท รีเมค รีบูท กันอีกกี่รอบ เราว่าก็มีคนไปดูเรื่องนี้อยู่ดี (เหมือน Batman ที่มีรูบูทอีกรอบปีหน้า)
หลังจาก โทบี้ แมคกไว
ปฏิเสธแบบไร้เยื่อขาดใยว่าจะไม่รับบทสไปดี้อีกแล้ว
ค่ายหนังเลยขอพักยกด้วยการส่งสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นรีบูทมาเสียเลย คุคุ~
หนังสร้างความฮือฮาได้พอสมควรตอนประกาศชื่อ
นักแสดงนำ ด้วยการเลือก แอนดรูว กาฟิลด์ ที่กำลังดังจาก The Social Network
มารับบทสไปดี้คนใหม่ และ แมรี่เจนนั้นก็แสนนนนนนนนนนนนจะน่าอภิรมย์ยิ่ง
อย่าง เอมม่า สโตน ที่กำลังดังเปรี้ยงจาก Easy A
หนังวัยรุ่นที่ทำให้เธอกลายเป็นลูกรักของฮอลลีวู้ด
และดาราขวัญใจวัยรุ่นยันผู้เฒ่าผู้แก่ในอเมริกาไปทันที
แค่ดารานำก็ฮือฮาขนาดนี้
ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของการประชาสัมพันธ์ไปแล้วกัน
สำหรับเราค่อนข้างเฉยๆกับรีบูทรอบนี้ .. แต่ด้วยความที่ชอบซีรีย์สไปเดอร์แมนสุดๆ ก็คงไปดูอยู่ดี ..
หนังดำเนินเรื่องแบบเดิม เด๊ะๆ..
แค่เปลี่ยนตัวแสดง และ พลอตปรับอีกเล็กน้อย
ใครเป็นแฟนหนังก็คงไม่พลาดกันอยู่แล้ว ... ชิมิ...ชิมิ...
หนังเข้าฉาย 5 กรกฏาคม นี้
7. Prometheus
หนังเรื่องล่าสุดจาก Ridly scott ที่ว่ากันว่ามีความเชื่อมโยงมาจากหนัง Alien (1979) ด้วย!
ผ่างงงงงงงง~
คำโปรยหน้าใบปิดหนังถือว่าเรียกความสนใจไ้ด้ดีพอควร และ คำโปรยนั่นแหละก็เป็นเรื่องย่อของหนังด้วย
"The Search for our Beginning Could Lead to our End"
"การค้นหาจุดเริ่มต้นของพวกเรา อาจนำเราไปสู่จุดจบ"
หนังว่าด้วยการออกไปค้นหาจุดกำเนิดของมวลมนุษย์ที่อวกาศอันไกลดพ้น แต่พอไปหาแล้วก็ไปเจอตอเข้าให้...
มีอะไรรอให้เราไปค้นพบ!!
หนังมาแนวหนัง น่าพรั่นพรึงอารมณ์เอเลี่ยนนั่นแหละเค่อะ ดาราที่ดาหน้ามารับบทนำก็ชวนกรี๊ดเสียเหลือเกิน
เริ่มที่ Noomi Rapaze อ๊า ..
ไม่คุ้นชื่อล่ะสิ เธอก็คือดาราสาวชาวสวีเดนที่ข้ามมาดังในฮอลลีวู้ด
ก่อนหน้านี้เธอคือต้นฉบับอันโด่งดังใน The Girl with Dragon tattoo
ฉบับสวีเดนนั่นเอง และเรื่องล่าสุดที่เราได้เห็นเธอก็คือ เชอร์ลอคโฮม
ภาคล่าสุดนั่นเอง (เธอเล่นเป็นยิปซีสาวน่ะ)
ร่วมด้วย ชารีซ เธอรอน และ พี่ไมเคิ้ลลลลลล
ฟาสเบนเดอร์ ที่กำลังเนื้อหอมฟุ้งในฮอลลีวู้ด หนังเรื่องนี้มี กาย เพี๊ยซ
ด้วยนะครัฟพี่น้อง!!
หนังเข้าฉาย มิถุนายนนี้ค่ะ
6. Men in Black III
เป็นหนังต่างดาวที่ชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง แน่นอนล่ะ เพราะว่ามันเป็นหนังตลก
หนังภาคแรกออกมาตอนปี 1997 (เราพึ่ง 9 ขวบเองตอนนั้น เลยชอบหนังเรื่องนี้สุดๆ) สร้างรายได้อย่างงดงาม
แต่หนังภาค 2 กว่าจะออกก็ปาเข้าไปปี 2002
แล้ว และภาค 2 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พลอตแม้จะไม่มีอะไรน่าเต้นตื่น
แต่หนังก็ยังสนุกโคตรๆอยู่ดีสำหรับเรา แต่ดูเหมือนหนังภาค 2
จะไม่ค่อยดังเท่าภาคแรก หนังเลยเงียบๆไปพร้อมความหวังคลุมเครือว่าจะมีภาค 3
หรือไม่
10 ปีผ่านไป...
แล้วภาค 3 ก็มาจนได้ T_________________T
หนังภาค 3 พลิกพลอตไปเลย เพราะดูเหมือนภาค 2
หนังจะเคลียร์ทุกอย่างไปเรียบร้อยแล้ว แต่ฮอลลีวู้ดซะอย่าง อยากมีภาคต่อ
อะไรก็เป็นไปได้ เมื่อภาค 3 หนังพาเราไปย้อนอดีต ของเจ้าหน้าที่ K (ทอมมี่
ลี โจนส์) ที่เปรียบเสมือนครูของ J (วิล สมิธ) ก่อนที่ K
จะทำให้โลกถึงกาลวิับัติ(?)
ตัวอย่างออกมา ทำให้เราคิดถึงหนัง 2 ภาคแรกสุดๆ ใครไปแฟนหนังซีรีย์นี้อย่าลืมตามไปชมกันนะคะ
อัพเกรดเป็น 3D กันเรียบร้อย 24 พฤษภาคม เจอกันค่ะ
(Fanmade Poster)
5. Star Trek 2
Star trek นั้นไม่ใช่หนังใหม่แต่อย่างใด
แต่ภาคล่าสุด ที่ทำให้ดาราวัยรุ่นที่เล่นแต่หนังรักง้อกๆแง้กๆ อย่าง Chris
pine แจ้งเกิดได้อย่างสวยงามคือ Star Trek ฉบับปี 2009 ของ J.J Abrams
นั่นเอง
ข่าวคราวของ Star Trek 2
นั้นค่อนข้างเงียบเชียบอยู่พอสมควร
แต่แฟนหนังเรื่องนี้ก็ตื่นตัวกันเหลือเกิน
ค่ายหนังมีโปรแกรมฉายของเรื่องนี้ในปี 2013
โดยนักแสดงหน้าเดิมกลับมากันครบหมด รวมทั้ง
Zachary Quinto ด้วย
(แซคเจอกระแสลบอยู่พักหนึ่งทีเดียวหลังประกาศตัวว่าเป็นเกย์
ใครว่าอเมริกาเปิดกว้าง แต่ไม่ใช่ฮอลลีวู้ดคร่ะ)
และถ้าไม่ใช่แค่ข่าวลือ มีการวางบทให้
Benedict Cumberbatch ร่วมแสดงในภาคนี้ด้วยค่ะ (ขอกรี๊ดดังๆ)
แม้จะเล่นหนังมาหลายเรื่อง
แต่ก็ไม่เป็นที่เด่นดังเท่าไรนักสำหรับดาราอังกฤษผู้นี้
จนกระทั่งมาเล่นทีวีซีรีย์ Sherlock นั่นเอง เขาก็ดังเปรี้ยงทันที! ในหนัง
เราเห็นหน้าเขาแล้วจาก Tinker Tailor Soldier Spy และ War Horse
4. The Hunger Games
เข้าโรงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกันสำหรับ หนังรักสามเศร้าเอาชีวิตรอดเรื่องนี้
หนังสร้างจากวรรณกรรมเยาวชนที่ดังระเบิดระเบ้อ แทบจะเอามาเทียบกับแฮรี่ พอตเตอร์เลยทีเดียว
หนัง World Premiere ตัวอย่างแรกไปในงาน
Super Bowl 2011 เล่นเอาแวดวงหนังอเมริกาถึงกับสั่นคลอน
แทบทุกเวปต้องมีข่าวนี้ แต่พี่ไทยกลับเงียบสุดๆ ยกเว้นเว็ปหนังนะ นอกนั้น
ผู้คนได้แต่ถามแว่ "แล้วไงฟะ-*-"
ก่อนหนังจะมาไทย
กระแสหนังเรื่องนี้เงียบมากกกกกก
อาจเพราะฉบับหนังสือไม่ค่อยได้รับความนิยมนักในไทย (เราไปถามเล่ม 1
มาก่อนหนังฉายประมาณ 6 เดือน ผลปรากฏว่าหมดไปตั้งแต่ปีมะว่อง
และยังไม่คิดจะตีพิมพ์เพิ่ม) แต่หลังจากหนังฉายปุ๊ป ไปถามเถอะคร่ะ ตอนนี้
ร้านไหนก็หมด ไม่ใช่หมดเพราะไม่ตีพิมพ์ใหม่นะ ไอ้ที่พึ่งพิม์ใหม่มา
พึ่งหมดไปเมื่อกี้เอง!!!
หนังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางมาก
ในระดับโลกหนังทำลายทุกสถิติหนังทำเงิน
ตอนนี้หนังขึ้นเทียบรัศมีหนังทำเงินตลอดกาลคู่กับ Harry Potter และ The
Dark Knight เป็นที่เรียบร้อย
หนังเข้าไทยเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยกระแสที่แรงสุดๆ คาดว่าหนังจะจองโรงอยู่อีกนาน
คุณล่ะ ... ไปพิสูจน์มาหรือยัง ?
3. The Hobbit: An Unexpected Journey
กว่าหนังจะได้รับการยืนยันว่าได้จะได้ฉายก็ปาเ้ข้าไปเป็น 10 ปี !
ซีรี่ย์ The Lord Of The Ring อันโด่งดังนั้น มีต้นกำเนิดมาจาก The Hobbit
ทั้ง The Lord Of The Ring (TLOTR) และ The Hobbit ต่างก็เป็นหนังที่สร้างจากวรรณกรรมชายดีของ เจ อาร์ อาร์ โทลคีน ทั้งคู่
แรกเริ่มเดิมที ปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับ
TLOTR นั้นคิดโปรเจค The Hobbit ไว้ตั้งแต่ตอนที่
หนังเดอะลอร์ดได้รับความนิยม โชติช่วงชัชวาล (ปี 2002)
โดยเขาวางแพลนไว้ว่าหนังต้องมาต่อ ซีรี่ย์เดอะ ลอร์ดได้แบบ พอดิบพอดี
เปี๊ยบ แฟนหนังจะได้อิ่มเอมเต็มอารมณ์กับดินแดน มิดเดิ้ลเอิร์ธ
แบบไม่ขาดตอนแน่นอน
แต่โปรเจคนี้ก็ปัญหาเยอะซะเหลือเกิน!
ใครเคยอ่านหนังสือมาแล้วคงทราบเรื่องราวเป็นอย่างดี เลยขอสรุปย่อๆแล้วกันนะึคะ
The Hobbit
เป็นเรื่องราวการผจญภัยสุดเกร๋ของ บิลโล แบกกิ้น (ลุงของ โฟรโด)
และพ่อมดขาวแกนดาล์ฟ เพื่อชิงสมบัติล้ำค่าคืนมาจาก มังกรสม็อค
เรื่องย่อสั้นกุด
แต่รับรองความสนุกแน่นอนค่ะ (หลายคนที่อ่านหนังสือบอกว่า เดอะ ฮอบบิท
มันกว่า เดอะ ลอร์ด เย้อ... บิลโบ้ เก่งกว่า ไรงี้)
หนังแบ่งเป็น 2 ภาคค่ะ ภาคแรก เข้าฉาย สิ้นปีนี้แน่นอน!
** หมายเหตุ **
เราเคยเขียนเรื่อง เพลงในตัวอย่าง The Hobbit ไว้แล้วที่นี่ ตามไปอ่านดูนะคะ
2. The Avengers
หนังคอมโบ้ ฮีโร่จัดเต็ม ของค่าย Marvel ที่ไม่ไปคุ้มเรื่องนี้ ก็ไม่รู้จะไปคุ้มเรื่องไหนแล้วววววว!!!!
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่ Thor
เทพเจ้าสายฟ้าลงมาบนโลก ทำให้น้องนอกไส้ขี้อิจฉาอย่าง Loki
นั้นเห็นทางกำจัดพี่ชาย ที่เป็นลูกรักของพ่ออุส..
เลยจัดหนักพี่จากบนสวรรค์ซะเลย แต่พี่ดั๊นนนนน เก่งเกิ้น ไม่ยอมตายอีก
คราวนี้ โลกิเลยต้องมาจัดหนักชาวโลกเอง คราวนี้ไม่แค่ฆ่าพี่ละเว้ย
จะครองโลกเลยล่ะ วะฮะฮ่า ...
งานนี้เทพเจ้าบ้านนอกเข้ากรุงอย่าง Thor
จะสู้อยู่คนเดียวก็ไม่ไหว พี่โล้นตาเดียว แห่งหน่วย
ชีลด์ที่ว่ากันว่าเป็นหน่วยลับ ที่ทำงานปกป้องโลกอย่างลับๆ
จะมารวบรวมพลพรรคฮีโร่มาช่วยเอร๊งงงง
โทนี่ สตาร์ค ... บรูซ แบนเนอร์ ... สตีฟ โรเจอร์ ... และ ธอร์ จะมารวมตัวกัน
ร่วมด้วย ผู้ช่วยสาวคุณสตาร์ค ที่กลายมาเป็น Black Widow ของหน่วยชีลด์เฉย
และ เลโกรัส อ่ะไม่ช่ายยยยย HawkEye ที่รับบทโดย เจเรอมี่ เลนเนอร์ พลเกาทัณฑ์ (ปีนี้เราได้เห็นหน้าพี่เขาจนเบื่อแน่)
จัดกันคุ้มไปเลยเรื่องนี้ :)
แต่สำหรับเราเฉยๆนะคะ อยากไปดูเพราะคิดว่ามันต้องมันและคุ้มมากแน่ๆ
แต่เห็นแล้วก็แอบตะหงิดๆกับเนื้อเรื่องนิดหน่อย (ตั้งแต่พี่
ธอร์จุติมาบนโลกและ และเครื่องแบบที่ธอร์ ก็เข้าก๊านนน
เข้ากันกับฮีโร่ที่เหลือ)
เอาจริงๆ ฮีโร่ทุกตัว ภาพลักษณ์มันก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิงทุกตัวอ่ะแหละ 55555555
เจอกันวันแรงงานไอ้น้อง!!! (ตลาดแตกแน่ หนังมาวันหยุด!!!)
และอันดับ 1 จะตกเป็นของใครไม่ได้นอกจาก ....
ทายสิ๊ ...
ติ๊ก ต่อก ....
ติ๊ก ต่อก ..
ติ๊ก ต่อก
.
.
.
.
แอ่นแ๊อ๊น ..
อันดับ 1 ที่ผู้คนคาดหวังและรอคอยที่สุดตกเป็นของ ...
The Dark Knight Rises
ปี๊ดดดดดด ปิ๊วววว วิ้ววววววววว~ *แฟนคลับเชียร์*
หลังจาก The Dark Knight เป็นต้นมา ชื่อของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ถูกประกาศใ้ห้อยู่ในบัญชี ศาสดา ทันที ><
ท่านศาสดาชาบูว~~~ ข้าจะขอติดตามหนังของท่านตลอดไป ตลอดไป ชาบู~
แม้หนังภาคแรกอย่าง Batman Begins นั้นจะค่อนข้างสมบูรณ์แบบแล้ว
แต่หนังกลับไม่ค่อยได้รับกระแสตอบรับดีเท่าที่ควร
คาดว่าหนังคงมีธีมหม่นเกินไป แต่พอมาถึงภาคต่ออย่าง The Dark Knight
ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
"สุดยอด"
คือคำอธิบายคำเดียวสำหรับ The Dark Knight
เป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้ที่รู้สึกว่า ความยาว เกือบ 3 ชั่วโมงกับราคา
180 บาทมันช่างถูกเหลือเกินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน จำได้ว่าในปี 2008 ที่เอะ
ดาร์ค ไนท์เข้าฉายในบ้านเรา ตอนนั้นเราลุกออกมาจากโรงแบบไม่อยากลุก มันล้น
มันอิ่มเหลือเกิน
หนังสนุกมาก ไร้ที่ติ และไม่รู้จะติทำไม มันสนุกเหลือเกินนนนนน จนหยิบมาดูซ้ำอีกทันทีที่แผ่นออกอีก 58 รอบ (เว่อร์)
ด้วยความที่ The Dark Knight นั้นสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ไว้
(ทั้งเงินทั้งกล่อง) ทำให้ภาคจบอย่าง The Dark Knight Rises
ถูกคาดหวังเป็นอย่างมาก ...
กองถ่ายภาพยนต์ของ The Dark Knight Rises นั้นไม่เคยเงียบ ...
มักจะมีภาพหลุดออกมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ ภาพ แบทโมบิล
... ภาพนักแสดง และอะไรต่อมิอะไรอีกมาก ที่ไม่รู้กองถ่ายจงใจปล่อยหลุด
หรือแฟนๆคลั่งหนังเรื่องนี้มากกันแน่
หนังค่อยๆยิงทีเซอร์โปรโมตกันมาทีละนิดละหน่อย
เรียกน้ำลายแฟนหนังกันสุดๆ สิ้นปีที่แล้วเราพึ่งได้เห็นตัวอย่างแบบ
Official ครั้งแรกของหนังภาคนี้นั่นก็คือ The dark knight rises prologue
โบนัสสำหรับใครที่เสียเงินไปดู MI:4 Ghost Protocol ในโรง IMAX เท่านั้น!!
(ไม่รู้เหมือนกันทั่วโลกหรือเปล่า) แต่แค่นั้นก็ทำให้แฟนๆกรี๊ดกร๊าดดดด
กันพอสมควรแล้ว
และต่อมาได้มีการปล่อยใบปิด ที่โชว์ภาพตัวร้ายหุ่นบึ้ก ที่รับบทโดย
Tom Hardy ที่ทำให้แฟนกรี๊ดดดดดดดสุดๆ อยากเห็นหน้า ทอม ฮาร์ดี้
แบบไม่มีหน้ากากกันใจจะขาดรอนๆ
และตัวอย่าง Official
ของหนังแบบที่ไม่ค่อยมีอะไรๆมาโชว์เท่าไหร่นักก็คลอดออกมา
แต่ก็ยังมีแฟนๆยังอุตส่าห์แอบเห็นสัญลักษณ์ Robin ในตัวอย่างได้ซะอีกแน่ะ
..
4 ปีมาแล้วตั้งแต่ The dark knight
20 กรกฎาคมนี้ สิ้นสุดการอคอย...
////////////////////////////////////////
หมดแล้วจ้า ตรงกับที่คิดไว้หลายเรื่องเลยละเส่ ... ตามไปเข้าไปดูอันดับอื่นๆได้ใน Ranker เลยนะจ๊ะ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น